ธุรกิจส่วนตัวอย่างร้านขายของชำเปิดกันได้ขายกันง่ายแค่มีเงินลงทุนในการเปิดก็ทำได้แล้ว ในชุมชนหนึ่ง ๆ มีร้านขายของชำอยู่มากกว่าหนึ่งร้าน แต่ก็ขายได้ทุกร้านยิ่งมีร้านเยอะโอกาสที่ลูกค้าจะเลือกก็มีเยอะ จึงต้องแข่งกันเองในพื้นที่ตนเอง แต่ว่าเป็นอาชีพอิสระที่ทำได้อยู่บ้านเฉย ๆ แค่เฝ้าร้านขายของไม่ต้องใช้ความคิดอะไรมากมาย เฝ้าดูสินค้าตรวจสอบว่าอะไรขายอะไรเหลือ ระวังคนขโมยของเท่านั้นเอง

เปิดร้านขายของชำ!! อาชีพอิสระคุณก็ทำได้

โชห่วย เป็นคำที่มาจากภาษาจีนฮกเกี้ยน สำหรับเรียกร้านขายของชำ สะดวกซื้อ สารพัดสิ่ง ที่มักมีลักษณะอยู่ในตึกแถวหนึ่งห้อง โดยมากเป็นกิจการเล็กๆ กิจการในครัวเรือน สร้างรายรับเล็กๆ น้อยๆ ใช้ในชีวิตประจำวัน ปัจจุบัน ลดน้อยลงไปมาก เพราะความที่เป็นกิจการเล็กๆ ในครัวเรือน จึงอาจจะมีสภาพเก่า เชย ไม่แตกต่างจากร้านสมัยโบราณ และมีคู่แข่งที่เป็นร้านสะดวกซื้อ ติดแอร์ เปิดตลอดวัน มาแข่งขัน

เปิดร้านขายของชำ!! อาชีพอิสระคุณก็ทำได้

เป็นวิธีการทำธุรกิจอย่างหนึ่งสำหรับคนที่อยากจะอยู่กับบ้านไม่ต้องไปไหน ไม่ต้องเดินทางไปทำงานให้เหนื่อย ไม่ต้องฟังเสียงบ่นเจ้านายแต่มีเวลาเมาท์มอยสนุกสนานกับเพื่อนบ้าน ชีวิตช่างมีความสุข ระหว่างการเฝ้าร้านขายของชำนั้นก็ยังทำอย่างอื่น ๆ ได้จะนั่งเฝ้าเฉย ๆ ก็คงจะน่าเบื่อ เอาคอมพิวเตอร์มาตั้งอ่านข่าว เล่นเกมส์ ท่องโลกอินเตอร์เน็ต ฟังเพลงไปด้วยก็ได้

หรือจะรับจ็อบงานอื่นเข้ามาเป็นอาชีพเสริมที่ทำได้ผ่านระบบออนไลน์ก็ยังทำได้เลย อาชีพอิสระจริง ๆ สำหรับงานธุรกิจขายของชำนี้จะเปิด-ปิดเวลาไหนก็ไม่มีใครว่าอยากจะหยุดก็ได้ไม่ต้องทำเรื่องขออนุญาตใครเลย

ของที่จะขายในร้านขายของชำนั้นจะต้องเป็นของใช้ได้ในชีวิตประจำวันใช้มาหมดไปคนจะต้องซื้อใหม่แน่นอน ซึ่งก็มีอยู่มากสินค้าที่เหมาะสำหรับขายในร้านขายของชำ มาดูคร่าว ๆ ว่ามีอะไรบ้างที่เป็นสินค้าน่าขายสำหรับใครที่ทำอาชีพอิสระเปิดร้านขายของชำนี้

เปิดร้านขายของชำ!! อาชีพอิสระคุณก็ทำได้

สิ่งสำคัญที่ร้านขายของจำต้องมี

1. การบริหารอย่างมีขั้นมีตอน

   การบริหารอย่างมีขั้นตอนเป็นสิ่งแรกที่ผู้ประกอบการร้านขายของชำจำเป็นต้องทำ ถ้าคิดจะปฏิวัติธุรกิจของตนให้สามารถสู้กับคู่แข่งได้ เพราะการทำแบบเดิม ๆ ที่รอให้คนมาซื้อสินค้าไปวัน ๆ โดยแนวทางการบริหารที่จะขอแนะนำคือให้ผู้ประกอบการมุ่งเน้นไปที่การจัดการและการทำการตลาด

ยกตัวอย่าง การจัดการในเรื่องของบัญชีและคลังสินค้า ผู้ประกอบการควรรู้ว่าจำเป็นต้องสั่งสินค้าเข้าร้านมากเท่าไหร่ ในเวลาไหนและสุดท้ายจะได้กำไรเป็นเงินเท่าไหร่ ส่วนในเรื่องของการตลาดผู้ประกอบการก็อาจใช้วิธีจัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมเพื่อเป็นการดึงดูดใจลูกค้าให้เข้าร้านก็ได้

2. เงินทุนพอหมุน

   เรื่องเงินทุนเป็นอีกหนึ่งข้อที่สร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าร้านสะดวกซื้อทั่วไปมีเงินทุนที่ไม่จำกัด อันเกิดจากการสนับสนุนของบริษัทแม่แตกต่างจากร้านขายของชำที่้ต้องอาศัยทุนตัวเอง หรือไม่ก็กู้ยืมจากแหล่งการเงินต่างๆซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย วิธีที่ดีที่สุดคือผู้ประกอบการต้องมีเงินทุนสำรองเอาไว้ภายในระบบบัญชีของทางร้านบ้าง ไม่ใช่ตัดเอาเข้าบัญชีออมทรัพย์ของตนเองแต่เพียงอย่างเดียว

การแยกแยะบัญชีส่วนตัวและของบริษัทออกจากกันจะได้บริหารจัดการเงินได้ง่ายขึ้น โดยวิธีนี้จะทำให้กระแสเงินสดหมุนเวียนในร้านมีมากขึ้นซึ่งเงินที่ได้มาจะสามารถเอาไปใช้ส่งเสริมกิจการภายในร้านได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการสั่งสินค้า หรือตกแต่งร้าน เป็นต้น

3. มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า

   เนื่องจากพนักงานของร้านสะดวกซื้อส่วนใหญ่เป็นพนักงานที่กินเงินเดือนประจำ จึงทำให้บางคนขาดจิตสำนึกในเรื่องงานบริการ เพราะต่างคิดว่ากิจการไม่ใช่ของตนจึงไม่ต้องใส่ใจบ้างก็บริการแบบเป็นหุ่นยนต์ขาดชีวิตชีวา ซึ่งนั่นก็คือข้อได้เปรียบที่ผู้ประกอบการมีเหนือกว่าร้านค้าคู่แข่ง ทั้งนี้ผู้ประกอบการต้องหมั่นพูดคุยผูกมิตรกับลูกค้าเพื่อสร้างความสนิทสนมซึ่งเรื่องนี้จะสร้างความภักดีให้กับลูกค้าและแปรเปลี่ยนมาเป็นฐานธุรกิจที่สนับสนุนกิจการของร้านในที่สุด

4. แต่งร้านสะอาดและน่าเข้า

   ผู้ประกอบการควรจัดแต่งหน้าร้านให้ดูเตะตา และสะอาดสะอ้านมากยิ่งขึ้น อาจใช้วิธีเพิ่มชั้นวางเพื่อใช้สำหรับวางสินค้า และมีเคาน์เตอร์สำหรับคิดเงินแยกเป็นสัดส่วน อาจจะติดเครื่องปรับอากาศหรือไม่ก็ได้แล้วแต่ความเหมาะสม แต่ที่สำคัญร้านค้าของท่านต้องเน้นไปที่ความสะอาดเป็นหลักเข้าไว้ ทั้งนี้ผู้ประกอบการอาจติดกล้องวงจรปิดเพื่อรักษาความปลอดภัยและพิทักษ์ผลประโยชน์ภายในร้านในระยะยาวด้วยก็ได้

เปิดร้านขายของชำ!! อาชีพอิสระคุณก็ทำได้

สินค้าน่าขายในร้านขายของชำ

  • เครื่องปรุงอาหารต่างๆ อาทิ น้ำปลา เกลือ ผงชูรส น้ำตาล ซอส เป็นต้น
  • ผ้าอนามัย
  • เครื่องดื่มชูกำลังต่างๆ
  • อาหารกระป๋อง อาหารกึ่งสำเร็จรูป
  • อุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน อาทิ ไม้กวาด ไม้ถูพื้น เป็นต้น
  • เครื่องเขียน อาทิ สมุด ปากกา ดินสอ ยางสบ กบ ไม้บรรทัด เป็นต้น
  • ขนม
  • น้ำอัดลม
  • กระดาษชำระ
  • ร่ม เสื้อกันฝน
  • น้ำมันพืช
  • ผงซักฟอก น้ำตาปรับผ้านุ่ม
นอกจากสินค้าหลัก ๆ เหล่านี้แล้วยังมีสินค้าประเภทอื่นแล้วแต่สภาพพื้นที่นั้น ๆ จะเอื้อว่าควรเอามาวางขายในร้านขายของชำหรือไม่ แม้ว่าสินค้าแต่ละชิ้นจะมีกำไรค่อนข้างน้อยแต่ในเมื่อหลาย ๆ ชิ้นรวมกันกำไรก็เยอะเหมือนกัน ร้านขายของชำจึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นอาชีพหลักสำหรับคนที่ชอบการอยู่บ้านเป็นอาชีพอิสระที่ใช้อิสระได้อย่างเต็มที่ หรือจะเปิดไว้ให้คุณพ่อคุณแม่ที่อยากจะทำงานที่บ้านก็ได้ลูก ๆ หลายคนก็ใช้วิธีนี้เพราะไม่อยากพ่อแม่ต้องเหนื่อยทำอย่างอื่นก็เปิดร้านให้ขายของเสียเลย
ขับเคลื่อนโดย Blogger.